246 จำนวนผู้เข้าชม |
ในปัจจุบัน เกษตรกรไทยต่างเผชิญกับปัญหาดินเสื่อมโทรม ผลผลิตตกต่ำ และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการใช้ปุ๋ยเคมีเป็นระยะเวลานาน แม้ว่าปุ๋ยเคมีจะมีข้อดีในแง่ของปริมาณธาตุอาหารที่สูงและการออกฤทธิ์ที่รวดเร็ว แต่ก็มีข้อเสียที่สำคัญคือการสูญเสียธาตุอาหารในอัตราที่สูง ซึ่งส่งผลกระทบทั้งต่อต้นทุนการผลิตและสภาพแวดล้อม บทความนี้จะนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการใช้สารเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ยเคมีชนิดเม็ดฮิวมิแคลพลัส
ปัญหาของการใช้ปุ๋ยเคมีแบบดั้งเดิม
ปุ๋ยเคมีเป็นที่นิยมในหมู่เกษตรกรเนื่องจากมีธาตุอาหารสูง ใช้ในปริมาณน้อย และออกฤทธิ์ไว อย่างไรก็ตาม การใช้ปุ๋ยเคมีแบบดั้งเดิมมีข้อเสียที่สำคัญหลายประการ
การสูญเสียธาตุอาหารสูง: ปุ๋ยเคมีสูญเสียธาตุอาหารได้ถึง 30-50% และบางชนิดอาจสูญเสียได้มากถึง 80%
ต้นทุนสูง: เกษตรกรต้องใส่ปุ๋ยในปริมาณมากเพื่อชดเชยการสูญเสีย ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
ผลกระทบต่อดิน: การใช้ปุ๋ยเคมีมากเกินไปทำให้ดินเค็ม เป็นกรด และแข็งดาน ส่งผลเสียต่อรากพืช
ประสิทธิภาพต่ำ: พืชไม่สามารถดูดซึมธาตุอาหารได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากการสูญเสียที่สูง
ทางออกที่ยั่งยืน: สารเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ยเคมีชนิดเม็ดฮิวมิแคลพลัส
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว บริษัทเอสทีโกลบอลกรีน ได้พัฒนาสารฮิวมิแคลพลัสชนิดเม็ด ซึ่งเป็นสารเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ยเคมีที่มีคุณสมบัติพิเศษ:
มีกรดฮิวมิก: ช่วยดูดซับธาตุอาหารจากปุ๋ยเคมี ลดการสูญเสีย
เป็นด่างอ่อน: มีค่า CEC สูง ช่วยจับธาตุอาหารไว้ให้พืชใช้ประโยชน์ได้นานขึ้น
ปรับปรุงดิน: ช่วยลดความเป็นกรดของดินที่เกิดจากการใช้ปุ๋ยเคมี
ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก: กรดฮิวมิกช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากพืช
เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน: ช่วยให้ดินเก็บความชื้นได้ดีขึ้น
ประโยชน์ของการใช้สารฮิวมิแคลพลัส
การใช้สารฮิวมิแคลพลัสร่วมกับปุ๋ยเคมีมีประโยชน์มากมาย:
ลดต้นทุนการผลิต: ใช้ปุ๋ยเคมีน้อยลงแต่ได้ผลผลิตเท่าเดิมหรือมากขึ้น
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ย: พืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้มากขึ้น
ปรับปรุงคุณภาพดิน: ลดความเป็นกรดและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน
ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช: ช่วยให้พืชแข็งแรง ต้านทานโรคได้ดีขึ้น
รักษาสิ่งแวดล้อม: ลดการชะล้างของปุ๋ยเคมีลงสู่แหล่งน้ำ
วิธีการใช้สารฮิวมิแคลพลัส
การใช้สารฮิวมิแคลพลัสทำได้ง่ายๆ ดังนี้:
ผสมสารฮิวมิแคลพลัสกับปุ๋ยเคมีในอัตราส่วน 3:1 (สารฮิวมิแคลพลัส 3 ส่วน ต่อปุ๋ยเคมี 1 ส่วน)
คลุกเคล้าให้เข้ากันดีก่อนใช้
ใช้ในนาข้าว ผัก และพืชไร่ตามปกติ
ทำไมต้องเลือกสารฮิวมิแคลพลัส ตรา ดินเย็น
บริษัทเอสทีโกลบอลกรีนเป็นผู้นำในการผลิตสารปรับปรุงดินและปุ๋ยคุณภาพสูง โดยสารฮิวมิแคลพลัสมีจุดเด่นดังนี้:
คุณภาพสูง: ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพดี ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน
ประสิทธิภาพสูง: มีปริมาณกรดฮิวมิกและค่า CEC ที่เหมาะสม
ใช้งานง่าย: อยู่ในรูปแบบเม็ด สะดวกต่อการผสมกับปุ๋ยเคมี
ราคาคุ้มค่า: ช่วยลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว
มีการรับรอง: ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สรุป
การใช้สารเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ยเคมีชนิดเม็ดฮิวมิแคลพลัสเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และรักษาคุณภาพดิน สารฮิวมิแคลพลัสจากบริษัทเอสทีโกลบอลกรีนช่วยแก้ปัญหาการสูญเสียธาตุอาหารจากปุ๋ยเคมี ปรับปรุงคุณภาพดิน และส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช นับเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การทำเกษตรยุคใหม่อย่างแท้จริง
เริ่มต้นใช้สารฮิวมิแคลพลัสวันนี้
หากคุณเป็นเกษตรกรที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยเคมี ลดต้นทุนการผลิต และปรับปรุงคุณภาพดิน สารฮิวมิแคลพลัสคือคำตอบ ติดต่อบริษัทเอสทีโกลบอลกรีนวันนี้ เพื่อรับคำแนะนำและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ เริ่มต้นการเกษตรที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพกว่าที่เคย!
โทร: 081-515-1397
#โรงงานผลิตปุ๋ย #สารปรับสภาพดิน #ปุ๋ยพืชไร่ #สารฮิวมิแคลพลัส #ปุ๋ยอินทรีย์ #บริษัทเอสทีโกลบอลกรีน #แก้ไขปัญหาดินเสีย #ลดรายจ่าย #ราคาถูก
แหล่งข้อมูล:
"การใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ" - กรมวิชาการเกษตร (https://www.doa.go.th/ard/wp-content/uploads/2021/03/การใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ.pdf)
"ฮิวมิก แอซิด (Humic Acid) สารอินทรีย์มหัศจรรย์" - สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (https://www.nstda.or.th/th/nstda-knowledge/142-knowledges/2756-humic-acid)
"การปรับปรุงบำรุงดิน" - กรมพัฒนาที่ดิน (https://www.ldd.go.th/web_ord/Technical/PDF/P_Technical03.pdf)